วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Gymboree Delight 1


    
 Gymboree Delight ตอนที่ 1 นี้จะเป็นพื้นที่สำหรับผู้ปกครองที่อยากรู้จัก Gymboree มากขึ้นในเชิงวิชาการค่ะ เราจะรวบรวมคำถามคำตอบในเชิงหลักสูตรและการสอนมาไว้ที่นี่  เพื่อให้ท่านได้เข้าใจถึงที่มาและไปของกิจกรรมบางประเภทที่ท่านได้สัมผัสในห้องเรียน รวมถึงการปรับปรุงหลักสูตรและกิจกรรมที่ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องอย่างใกล้ชิดอีกด้วยค่ะ

     สำหรับ Gymboree Delight 1 ดิฉันอยากเริ่มด้วยการแนะนำ Gymboree อย่างจริงจังอีกสักครั้งก่อนที่เราจะมุ่งเข้าสู่เนื้อหาทางด้านหลักสูตรในบทความต่อๆไป  เพื่อให้ท่านทราบว่า Gymboree คืออะไรและแตกต่างจากกิจกรรมเด็กอื่นๆ ในแง่มุมใดบ้าง ประมาณ 7 เรื่องด้วยกันค่ะ

     Gymboree Play and Music เป็นผู้นำในระดับโลกในกิจกรรมเสริมพัฒนาการเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ 5 ปี โดยเน้นเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัวและเสริมพัฒนาการเด็กครบทั้ง 4 ด้าน เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1976 ปัจจุบันมีสาขาทั่วโลกกว่า 690 สาขา  อยู่ภายใต้การดำเนินงานของ Gymboree Corporation ซึ่งเป็นบริษัทมหาชน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ประเทศสหรัฐอเมริกา มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง San Francisco นอกจากส่วนงานด้านการบริการนี้แล้ว Gymboree Corporation ยังมีธุรกิจเสื้อผ้าภายใต้แบรนด์ Gymboree และ Janie and Jack และ Crazy 8 อีกด้วย สำหรับ Gymboree Play and Music นั้นมีลักษณะที่แตกกต่างจาก Playgroup อื่นดังนี้

1.    การเข้าร่วมกิจกรรมของผู้ปกครอง
ที่ Gymboree
    • เราเน้นให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมแบบ Active เพราะเราเชื่อว่าผู้ปกครองคือบุคคลที่สำคัญที่สุดต่อการเสริมพัฒนาการของลูก
    • นอกจากนี้เรายังเน้นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัว การเข้าร่วมกิจกรรมกับเด็กๆ ถือเป็นเวลาคุณภาพของครอบครัวที่มีลูกเล็ก
    • ทั้งยังช่วยเสริมทักษะการสร้างปฏิสัมพันธ์ของผู้ปกครองกับลูก  เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆของลูก
    • และผู้ปกครองจะสามารถนำกิจกรรมในชั้นเรียนกลับไปเล่นต่อที่บ้านได้จริงอีกด้วย
กิจกรรมเด็กเล็กอื่น
·         ให้ผู้ปกครองเข้าร่วมในชั้นเรียนแต่เป็นในลักษณะ Passive โดยมีครูหลายๆ คนคอยประคับประคองเด็ก ผู้ปกครองมีบทบาทรองจากครู
·         ส่วนใหญ่ทุกกิจกรรมจะจำกัดการเข้าร่วมของผู้ปกครองได้ไม่เกินอายุ 3 ปี

2.    ปรัชญาการสอน
ที่ Gymboree มีปรัชญาการสอนที่ชัดเจน เช่นเดียวกันทุกสาขาทั่วโลก
·         เป็นผู้บุกเบิกเรื่องการเรียนรู้ผ่านการเล่นมากว่า 30 ปีแล้ว จึงเน้นให้เด็กทำกิจกรรมพัฒนาทักษะต่างๆ ผ่านการเล่นอย่างสนุก
·         เชื่อและเคารพในความแตกต่างของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพัฒนาการทางร่างกายและพื้นฐานอารมณ์
·         ยึดมั่นในทฤษฏีพัฒนาการเด็กปฐมวัยซึ่งเน้นที่ระดับพัฒนาการแตกต่างกัน เช่น แบ่งย่อยถึง 7 ระดับ ในช่วงอายุ 0-5 ปี จึงทำให้การออกแบบกิจกรรมตามช่วงวัยเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับช่วงอายุหนึ่งๆ
·         ในช่วงพัฒนาการหนึ่งๆ มุ่งเสริมพัฒนาการองค์รวมที่คาดหวังได้ (Overaching Developmental Goals)
·         Gymboree เน้นพัฒนาการในภาพรวมมากกว่าเพียงพัฒนาการแยกเป็นส่วนๆ เช่นในบทเรียนหนึ่งๆ จะต้องครอบคลุมการเสริมพัฒนาการครบทั้ง 4 ด้าน (ร่างกาย สังคม อารมณ์ สติปัญญา) ไม่เน้นเฉพาะร่างกาย หรือสมองเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
·         สร้างการเรียนรู้ถาวรโดยให้เด็กๆ ได้ทดลองจริง เปิดโอกาสให้เด็กได้ทำผ่านกิจกรรมอันหลากหลาย
·         เน้นให้เด็กมีโอกาสในการเลือกกิจกรรม โดยไม่บังคับ

กิจกรรมเด็กเล็กอื่น ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ไป โดยพิจารณาจาก
·         ความน่าเชื่อถือและการยอมรับของแบรนด์นั้นๆ หรือโรงเรียนนั้นๆ
·         คุณครูมีความเชื่อและแนวทางในการสอนเป็นไปในทางเดียวกันหรือไม่ หรือผู้เป็นเจ้าของแบรนด์สามารถสืบทอดเจตนารมณ์และแนวทางการปฏิบัติของตนสู่ผู้ปฏิบัติจริงได้หรือไม่
·         การแบ่งระดับชั้นเรียนว่ามีความชัดเจนเพียงใด แบ่งกลุ่มและออกแบบกิจกรรมได้เหมาะสมตามช่วงอายุหรือไม่
·         ความคาดหวังถึงผลลัพธ์จากระบบการสอนนั้นๆ ชัดเจนเพียงไร

3.    การออกแบบหลักสูตรการสอนและกิจกรรม
ที่ Gymboree
·         ทุกหลักสูตรได้ถูกออกแบบโดยทีมงาน R&D จาก Gymboree Corporation ประเทศสหรัฐอเมริกา 
·         ทีมงานได้พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปี โดยมีเป้าหมายปรับปรุงแต่ละหลักสูตรอย่างน้อยทุกๆ 3-5 ปี
·         มีการพัฒนาหลักสูตรอย่างรอบคอบ มีการหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กตลอดเวลา มีการทดลองสอน เพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่องก่อนที่จะนำมาใช้จริง 
·         หลักสูตรแต่ละหลักสูตรสอดคล้องกับพัฒนาการเด็กตามช่วงอายุและได้รับการยอมรับจากองค์กร Zero to Three ว่าเหมาะสมกับเด็ก 0-5 ปีที่สุด
·         ทุกหลักสูตรมีบทเรียนที่ออกแบบไว้สำหรับ 1 ปีต่อหนึ่งระดับอายุโดยไม่ซ้ำกัน อาจจะมีบางกิจกรรมที่ซ้ำกันบ้าง แต่เด็กๆ จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอในแต่ละบทเรียน
·         เปลี่ยนบทเรียน (Lesson Plan) ทุกสัปดาห์ มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ในทุกบทเรียนมี Theme ชัดเจน  ทุกกิจกรรมในบทเรียนนั้นมีที่มาและที่ไป  เช่น การวาดภาพหรือตัดแปะในกิจกรรมศิลปะ  จะวาดภาพที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ในวันนั้น มิใช่วาดภาพอะไรก็ได้
·         สอนโดยคุณครูที่ได้รับการอบรมให้เข้าใจและนำหลักสูตรไปใช้อย่างถูกต้องในทุกประเทศทั่วโลก

กิจกรรมเด็กเล็กอื่น มีความแตกต่างกันในแต่ละที่ โดยพิจารณาจาก
·         มีการออกแบบหลักสูตรหรือไม่ ผู้ออกแบบหลักสูตรคือใคร ปรับปรุงหลักสูตรบ่อยเพียงใด ล่าสุดคือเมือใด
·         หลักสูตรมีโครงสร้างที่ชัดเจนหรือไม่  และมีความหลากหลายในกิจกรรมหรือไม่
·         หลักสูตรมีความเหมาะสมตามช่วงอายุหรือไม่  มีการแบ่งระดับชั้นห่างหรือถี่อย่างไร
·         ในแต่ละบทเรียนมีกิจกรรมที่ครอบคลุมพัฒนาการครบทั้ง 4 ด้านหรือไม่
·         มีการออกแบบหลักสูตรเป็น Theme ที่มีกิจกรรมสอดคล้องกันในบทเรียนหนึ่งๆ หรือไม่  เช่น ในกิจกรรมศิลปะการที่เด็กๆ วาดรูปนั้น มีการปูความรู้พื้นฐานที่สอดคล้องกับกิจกรรมก่อนหน้าไม่ หรือเพียงแค่อยากวาดอะไรก็วาดโดยไม่มีทิศทาง
·         บางกิจกรรมมีความพยายามสอนทักษะที่เกินกว่าพัฒนาการของเด็ก เพียงเพื่อให้ผู้ปกครองเห็นว่า มีการสอนด้านวิชาการในหลักสูตรของตน
·         บางกิจกรรมใช้สื่อวิดีทัศน์ในการสอน ทั้งๆที่ไม่มีความจำเป็น เนื่องจากเด็กควรจะได้รับการสอนจากสิ่งของ 3 มิติ
·         ระบบการจัดการหลักสูตรของครูแต่ละคนเหมือนกันหรือไม่




จบ ตอนที่ 1









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น