Gymboree Delight ตอนที่ 1 นี้จะเป็นพื้นที่สำหรับผู้ปกครองที่อยากรู้จัก Gymboree มากขึ้นในเชิงวิชาการค่ะ เราจะรวบรวมคำถามคำตอบในเชิงหลักสูตรและการสอนมาไว้ที่นี่ เพื่อให้ท่านได้เข้าใจถึงที่มาและไปของกิจกรรมบางประเภทที่ท่านได้สัมผัสในห้องเรียน รวมถึงการปรับปรุงหลักสูตรและกิจกรรมที่ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องอย่างใกล้ชิดอีกด้วยค่ะ
สำหรับ Gymboree Delight 1 ดิฉันอยากเริ่มด้วยการแนะนำ Gymboree อย่างจริงจังอีกสักครั้งก่อนที่เราจะมุ่งเข้าสู่เนื้อหาทางด้านหลักสูตรในบทความต่อๆไป เพื่อให้ท่านทราบว่า Gymboree คืออะไรและแตกต่างจากกิจกรรมเด็กอื่นๆ ในแง่มุมใดบ้าง ประมาณ 7 เรื่องด้วยกันค่ะ
Gymboree
Play and Music เป็นผู้นำในระดับโลกในกิจกรรมเสริมพัฒนาการเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ
5 ปี โดยเน้นเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัวและเสริมพัฒนาการเด็กครบทั้ง
4 ด้าน เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1976 ปัจจุบันมีสาขาทั่วโลกกว่า 690 สาขา อยู่ภายใต้การดำเนินงานของ Gymboree
Corporation ซึ่งเป็นบริษัทมหาชน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq
ประเทศสหรัฐอเมริกา มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง San
Francisco นอกจากส่วนงานด้านการบริการนี้แล้ว Gymboree
Corporation ยังมีธุรกิจเสื้อผ้าภายใต้แบรนด์ Gymboree และ Janie and Jack และ Crazy 8 อีกด้วย สำหรับ Gymboree Play and Music นั้นมีลักษณะที่แตกกต่างจาก
Playgroup อื่นดังนี้
1.
การเข้าร่วมกิจกรรมของผู้ปกครอง
ที่ Gymboree
- เราเน้นให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมแบบ
Active
เพราะเราเชื่อว่าผู้ปกครองคือบุคคลที่สำคัญที่สุดต่อการเสริมพัฒนาการของลูก
- นอกจากนี้เรายังเน้นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัว
การเข้าร่วมกิจกรรมกับเด็กๆ ถือเป็นเวลาคุณภาพของครอบครัวที่มีลูกเล็ก
- ทั้งยังช่วยเสริมทักษะการสร้างปฏิสัมพันธ์ของผู้ปกครองกับลูก เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆของลูก
- และผู้ปกครองจะสามารถนำกิจกรรมในชั้นเรียนกลับไปเล่นต่อที่บ้านได้จริงอีกด้วย
กิจกรรมเด็กเล็กอื่น
·
ให้ผู้ปกครองเข้าร่วมในชั้นเรียนแต่เป็นในลักษณะ
Passive โดยมีครูหลายๆ คนคอยประคับประคองเด็ก ผู้ปกครองมีบทบาทรองจากครู
·
ส่วนใหญ่ทุกกิจกรรมจะจำกัดการเข้าร่วมของผู้ปกครองได้ไม่เกินอายุ
3 ปี
2.
ปรัชญาการสอน
ที่ Gymboree
มีปรัชญาการสอนที่ชัดเจน
เช่นเดียวกันทุกสาขาทั่วโลก
·
เป็นผู้บุกเบิกเรื่องการเรียนรู้ผ่านการเล่นมากว่า
30 ปีแล้ว จึงเน้นให้เด็กทำกิจกรรมพัฒนาทักษะต่างๆ ผ่านการเล่นอย่างสนุก
·
เชื่อและเคารพในความแตกต่างของแต่ละบุคคล
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพัฒนาการทางร่างกายและพื้นฐานอารมณ์
·
ยึดมั่นในทฤษฏีพัฒนาการเด็กปฐมวัยซึ่งเน้นที่ระดับพัฒนาการแตกต่างกัน
เช่น แบ่งย่อยถึง 7 ระดับ ในช่วงอายุ 0-5 ปี
จึงทำให้การออกแบบกิจกรรมตามช่วงวัยเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับช่วงอายุหนึ่งๆ
·
ในช่วงพัฒนาการหนึ่งๆ
มุ่งเสริมพัฒนาการองค์รวมที่คาดหวังได้ (Overaching Developmental Goals)
·
Gymboree เน้นพัฒนาการในภาพรวมมากกว่าเพียงพัฒนาการแยกเป็นส่วนๆ
เช่นในบทเรียนหนึ่งๆ จะต้องครอบคลุมการเสริมพัฒนาการครบทั้ง 4 ด้าน (ร่างกาย สังคม
อารมณ์ สติปัญญา) ไม่เน้นเฉพาะร่างกาย หรือสมองเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
·
สร้างการเรียนรู้ถาวรโดยให้เด็กๆ ได้ทดลองจริง
เปิดโอกาสให้เด็กได้ทำผ่านกิจกรรมอันหลากหลาย
·
เน้นให้เด็กมีโอกาสในการเลือกกิจกรรม
โดยไม่บังคับ
กิจกรรมเด็กเล็กอื่น ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ไป
โดยพิจารณาจาก
·
ความน่าเชื่อถือและการยอมรับของแบรนด์นั้นๆ
หรือโรงเรียนนั้นๆ
·
คุณครูมีความเชื่อและแนวทางในการสอนเป็นไปในทางเดียวกันหรือไม่
หรือผู้เป็นเจ้าของแบรนด์สามารถสืบทอดเจตนารมณ์และแนวทางการปฏิบัติของตนสู่ผู้ปฏิบัติจริงได้หรือไม่
·
การแบ่งระดับชั้นเรียนว่ามีความชัดเจนเพียงใด แบ่งกลุ่มและออกแบบกิจกรรมได้เหมาะสมตามช่วงอายุหรือไม่
·
ความคาดหวังถึงผลลัพธ์จากระบบการสอนนั้นๆ
ชัดเจนเพียงไร
3.
การออกแบบหลักสูตรการสอนและกิจกรรม
ที่
Gymboree
·
ทุกหลักสูตรได้ถูกออกแบบโดยทีมงาน R&D จาก Gymboree Corporation ประเทศสหรัฐอเมริกา
·
ทีมงานได้พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรอย่างต่อเนื่องกว่า
30 ปี โดยมีเป้าหมายปรับปรุงแต่ละหลักสูตรอย่างน้อยทุกๆ 3-5 ปี
·
มีการพัฒนาหลักสูตรอย่างรอบคอบ มีการหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กตลอดเวลา
มีการทดลองสอน เพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่องก่อนที่จะนำมาใช้จริง
·
หลักสูตรแต่ละหลักสูตรสอดคล้องกับพัฒนาการเด็กตามช่วงอายุและได้รับการยอมรับจากองค์กร
Zero
to Three ว่าเหมาะสมกับเด็ก 0-5 ปีที่สุด
·
ทุกหลักสูตรมีบทเรียนที่ออกแบบไว้สำหรับ 1
ปีต่อหนึ่งระดับอายุโดยไม่ซ้ำกัน อาจจะมีบางกิจกรรมที่ซ้ำกันบ้าง แต่เด็กๆ
จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอในแต่ละบทเรียน
·
เปลี่ยนบทเรียน (Lesson
Plan) ทุกสัปดาห์ มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ในทุกบทเรียนมี Theme
ชัดเจน
ทุกกิจกรรมในบทเรียนนั้นมีที่มาและที่ไป
เช่น การวาดภาพหรือตัดแปะในกิจกรรมศิลปะ
จะวาดภาพที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ในวันนั้น มิใช่วาดภาพอะไรก็ได้
·
สอนโดยคุณครูที่ได้รับการอบรมให้เข้าใจและนำหลักสูตรไปใช้อย่างถูกต้องในทุกประเทศทั่วโลก
กิจกรรมเด็กเล็กอื่น
มีความแตกต่างกันในแต่ละที่
โดยพิจารณาจาก
·
มีการออกแบบหลักสูตรหรือไม่
ผู้ออกแบบหลักสูตรคือใคร ปรับปรุงหลักสูตรบ่อยเพียงใด ล่าสุดคือเมือใด
·
หลักสูตรมีโครงสร้างที่ชัดเจนหรือไม่ และมีความหลากหลายในกิจกรรมหรือไม่
·
หลักสูตรมีความเหมาะสมตามช่วงอายุหรือไม่ มีการแบ่งระดับชั้นห่างหรือถี่อย่างไร
·
ในแต่ละบทเรียนมีกิจกรรมที่ครอบคลุมพัฒนาการครบทั้ง
4 ด้านหรือไม่
·
มีการออกแบบหลักสูตรเป็น Theme ที่มีกิจกรรมสอดคล้องกันในบทเรียนหนึ่งๆ หรือไม่ เช่น ในกิจกรรมศิลปะการที่เด็กๆ
วาดรูปนั้น มีการปูความรู้พื้นฐานที่สอดคล้องกับกิจกรรมก่อนหน้าไม่
หรือเพียงแค่อยากวาดอะไรก็วาดโดยไม่มีทิศทาง
·
บางกิจกรรมมีความพยายามสอนทักษะที่เกินกว่าพัฒนาการของเด็ก
เพียงเพื่อให้ผู้ปกครองเห็นว่า มีการสอนด้านวิชาการในหลักสูตรของตน
·
บางกิจกรรมใช้สื่อวิดีทัศน์ในการสอน
ทั้งๆที่ไม่มีความจำเป็น เนื่องจากเด็กควรจะได้รับการสอนจากสิ่งของ 3 มิติ
·
ระบบการจัดการหลักสูตรของครูแต่ละคนเหมือนกันหรือไม่
จบ ตอนที่ 1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น